macho_luglio 's cargo, Mostly fanfictions.

[Thorki Modern AU] Single Daddy – 1

 

macho_luglio

 

Paring : Thor x Loki

Warning : NSFW

 

Note : เป็นพล๊อตที่คิดไว้นานแล้วค่ะ พอดีกับช่วงนี้เล่น #fictober เลยคุ้ยขึ้นมาเริ่มแต่ง สลับกับเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ (- -,,

ไม่ได้ลงพายเรือธอร์กินานมากกกกกกกกก เพราะส่วนใหญ่เสพจนอิ่มเลยไม่ผลิตเอง(โดนชก) ตอนนี้หิว ๆ ขึ้นมา แฮ่ ๆ ยังไงก็ขอฝากไว้ด้วยนะคะ คอมเมนต์มาคุยกันได้นะะะะะ (-q-,,

 

 

 

“น้องแกติดต่อมาบ้างรึเปล่า?”

 

เสียงแว่ว ๆ ของ ‘พ่อ’ จากอีกห้อง ทำให้ธอร์ต้องเงยหน้าขึ้นมาจากก้อนหินอ่อน…ให้ตายเถอะ เขาบิวท์อารมณ์ศิลปินมาตั้งแต่เช้า เพิ่งจะมีไฟตอกลงไปสองสามโป๊ก พ่อก็ดันชวนคุย…แต่จะทำยังไงได้ เขาวางค้อนลงกับโต๊ะแล้วเดินออกมาจากห้องทำงาน

 

โอดินนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวมหึมากลางคฤหาสน์ มือขวาห้อยลงจากโซฟา มือซ้ายลูบหัวปอมเมอเรเนียนที่อยู่บนพุงกลมใหญ่ หมาน้อยหันมามองและกระดิกก้อนหางฟู ๆ ให้ธอร์เมื่อเขาเดินมาทิ้งตัวนั่งลงถัดจากปลายเท้าพ่อ

 

“ไม่เลย” ธอร์บอก หยิบคุ้กกี้หนึ่งกำมือมายัดใส่ปาก “อูเอื๋อนอ่ะอิดอ่ออับแอ้ แอ่แอ้ไอ้ออมออกอ๊วกเอา”

 

‘ดูเหมือนจะติดต่อกับแม่ แต่แม่ไม่ยอมบอกพวกเรา’ โอดินแปลภาษาสวาปามของลูกแล้วถอนหายใจ  “แม่ไม่ได้มาบอกพวกเราต่อ คงเพราะไม่มีอะไรน่าห่วงมั้ง…แต่….”

 

แต่คิดถึงล่ะสิ…ธอร์เข้าใจพ่อดี เดิมที ‘โลกิ’ ขี้อ้อนกับทุกคนในครอบครัว เมื่อเจ้าเด็กน้อยนั่นหายออกจากบ้าน อะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเก่า

 

ทั้งหมดมันเริ่มจากความลับทางสายเลือดถูกเปิดเผยนั่นแหล่ะ

 

เขายังจำสีหน้าซีดเผือดของน้องชายได้…จำมือที่ยกขึ้นดึงเส้นผมสีดำสนิท…สีที่ไม่มีในครอบครัวโอดินสัน

 

นอกจากนิสัยขี้อ้อนช่างเอาใจ โลกิก็มีนิสัยเคียดแค้นและขี้น้อยใจเอาเรื่อง

 

น้องชายของเขาจึงออกไปจากบ้านได้หลายปีแล้ว…

 

“ถ้าเขาหายโกรธหรือมีเรื่องเดือดร้อน เดี๋ยวก็คงกลับมาเอง” ธอร์บอก เป็นคำปลอบใจที่เขาพูดกับพ่อมาตลอด

 

“แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ? จะว่าไป เดือนนี้ยังไม่ได้ส่งคนไปเช็คดูเลย” โอดินเอื้อมมือขวาไปหาโทรศัพท์บนโต๊ะกาแฟหน้าโซฟา

 

แต่ฝ่ายลูกอาศัยแขนที่ยาวกว่า เขี่ยโทรศัพท์ไปไกล ๆ “ไม่ต้องหรอกพ่อ เดี๋ยวผมไปดูเอง”

 

“อ๋อ” โอดินพยักหน้า  “ว่างงานอยู่สินะ”

 

“เรียกว่าอยู่ในช่วงหาแรงบันดาลใจดีกว่าไหม” ธอร์แก้คำให้ดูดีขึ้น แม้สิ่งที่พ่อพูดจะใช่ เขาว่างงาน ไร้ผลงาน เป็นศิลปินขายไม่ออกที่ยังต้องอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งโชคดีเหลือเกินที่เป็นเจ้าของกิจการรวยมหาศาล

 

“ก็ได้ แกเองก็ไม่ได้เจอหน้าน้องมานาน ลองไปนำร่องก่อนซิว่าเขาหายงอนพ่อหรือยัง” พูดจบก็บิดขี้เกียจอย่างเมื่อล้าตามสังขารที่เข้าสู่วัยชรา “…คิดถึงสมัยก่อน ตอนที่ยังอยู่กันพร้อมหน้า เดี๋ยวนี้แม้แต่ซิฟก็ไม่ค่อยมาหาเลย…จะปีครึ่งแล้วมั้ง”

 

ธอร์พยักหน้า ซิฟคือคู่หมั้นสาวของเขา ซึ่งตอนนี้ไปทำงานถ่ายสารคดีอยู่ต่างประเทศ เดือนนึงจึงจะโทรมาถามไถ่ความเป็นอยู่

 

คู่หมั้นกันแท้ ๆ ทำไมถึงห่างไกลแบบนี้…เป็นเรื่องที่พูดยากเอาการ แม้เริ่มแรกจะถูกจับคู่ให้คบหากันเพราะผลประโยชน์ระหว่างพ่อแม่ แต่พวกเขากลับเข้ากันได้ดี เคยผ่านช่วงเวลาอันหวานชื่นตอนวัยรุ่น รู้สึกว่ายั่งยืนตอนหมั้นหมาย…ธอร์คิดว่าพวกเขาไม่มีทางเลิกรากัน เพียงแต่เว้นระยะให้ต่างฝ่ายต่างไปสนุกกับงานตัวเองให้เต็มที่…อย่างน้อยก็ฝ่ายนั้นล่ะนะที่ทำงานจริงจัง

 

แต่พอห่างกันนานเข้า เขาเริ่มคิดถึงตอนที่อยู่กับซิฟ และยิ่งคิดถึงตอนที่อยู่กับซิฟและโลกิ…

 

โรคคิดถึงความหลังกำเริบมาเป็นพัก ๆ แล้ว ทางเดียวที่จะรักษาได้ คือไปเห็นหน้าเจ้าตัวต้นเหตุเสียหน่อยคงจะดี

 

———

 

ขับรถข้ามรัฐมาสามชั่วโมงกว่า ในที่สุดก็ถึงเมืองที่น้องชายอยู่

 

ธอร์ปิดประตูรถ SUV คันโปรด ถอดแว่นกันแดดราคาแพงระยับมาเสียบตรงคอเสื้อยืดปอน ๆ ที่มีรูบนไหล่…เขายืนอยู่ตรงข้ามถนนหน้าทาวน์โฮมสีเขียวหม่น หลังคาเป็นกระเบื้องสีดำ สีโปรดของเจ้านั่น แม้จะดูคับแคบเหลือเกินสำหรับทายาทผู้ร่ำรวย แต่ก็ไม่ทิ้งกลิ่นอายหรูหรา บันไดเหล็กดัดสีดำที่บรรจงสร้างนั้นบ่งบอกได้ดี

 

จากสายข่าวของพ่อที่ตามสืบมาตลอดตั้งแต่โลกิออกจากบ้าน น้องของเขาทำงานเป็น Party Organizer ซึ่งก็เหมาะกับความสามารถของเจ้าตัวดี…ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ครบรอบวันแต่งงานของคู่สามีภรรยาวัยทอง หรือปาร์ตี้สุดโลดโผนของสมาคมxxx โลกิก็จัดหาสิ่งที่ใช่ให้เจ้าของงานได้หมด นับว่าเป็นออแกไนซ์เซอร์ตัวท็อปที่ใคร ๆ ต้องการ

 

ทว่า ช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา สายข่าวบอกว่างานของโลกิลดลงอย่างเห็นได้ชัด…จากเดิมที่นับชั่วโมงในการอยู่บ้านได้ กลายเป็นอยู่บ้านแทบทุกวัน…วันละหลายชั่วโมง หรือหากออกมาก็แค่ไปทำธุระไม่นาน แล้วรีบกลับ

 

ตกงานแน่นอน ธอร์สรุปในใจ ค่อยคุ้มค่าที่เขามาหน่อย

 

เป้าหมายของเขาคือแบบนี้ โผล่มาในช่วงเวลาที่น้องชายกำลังต้องการความช่วยเหลือ ให้กำลังใจ แล้วพากลับบ้าน จบ แต่ที่ต้องรอมาหลายปี เพราะอีกฝ่ายได้ดิบได้ดีเกินไปนั่นแหล่ะ

 

โอ๊ะ คิดถึงก็มาเลย…ธอร์เห็นเงาร่างสูงโปร่งเดินเลี้ยวมาจากหัวมุม เขารีบย่อตัวลงหลบหลังรถ แอบมอง…

 

โลกิไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจากอดีต…ทั้งส่วนสูง รูปร่าง สไตล์การแต่งตัว…ไม่สิ เปลี่ยนไปนิดหน่อย เจ้านั่นไม่เคยสวมสเวตเตอร์คอกว้างและดูรุ่ยร่ายขนาดนั้น สีหน้าก็ดูอ่อนเพลีย หอบถุงกระดาษใบใหญ่จากซุปเปอร์มาร์เก็ตซักแห่ง…มีทั้งผักและผลไม้โผล่ออกมา

 

โลกิไม่เคยทำอาหารกินเอง ถ้าอยู่คนเดียว

 

แสดงว่าเขาอยู่กับใครอีกคน

 

ปกติทุกคนชอบด่าเขาว่าไอ้หัวร้อน เจ้าบื้อธอร์ แต่กับเรื่องของน้องชาย เขามั่นใจว่าตัวเองฉลาด…แต่ดันยังหัวร้อนอยู่นี่สิ

 

จังหวะที่โลกิกำลังไขกุญแจ ธอร์พุ่งข้ามถนนมา ทันเวลาที่น้องชายเปิดประตูบ้านได้พอดี

 

“เฮ้”

 

จบคำทัก โลกิหันมา เบิกตา แล้วสอดตัวเองเข้าประตู รีบปิด!

 

แต่ธอร์ไวกว่า เขาแทรกไหล่ขวางเอาไว้ ร้องโอ๊ยเบา ๆ เมื่อถูกหนีบอยู่ระหว่างกรอบกับบานประตู  “เฮ้ย! ทำอย่างนี้กับพี่ที่ไม่ได้เจอหน้ามานานเหรอ”

 

โลกิยกขาถีบประตูเหยง ๆ จนเมื่อรู้สึกตัวว่าทำเสียงดังและถีบต่อไปธอร์ก็ไม่สะเทือน เจ้าของบ้านจึงหยุด  “ใครอยากเจอหน้าไม่ทราบ”

 

ธอร์เอาตัวเข้ามายืนในบ้านได้ในที่สุด เขาปิดประตูตามหลัง กดล็อกให้อย่างเรียบร้อย “อยากมาหาบ้าง ไม่ได้หรือไง”

 

โลกิอ้าปากเหมือนจะตะโกน แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจ “…เข้าไปคุยในห้องรับแขกกัน อย่าทำเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านล่ะ”

 

พูดจบ เจ้าของบ้านก็อุ้มถุงกระดาษเดินตรงเข้าครัวซึ่งอยู่หลังบ้าน ส่วนธอร์นั้นแยกไปด้านซ้าย…ในห้องรับแขกนั้นตกแต่งอย่างเรียบหรู มีประตูแยกออกไปยังห้องอื่นอีกสองห้อง ธอร์เดินสำรวจไปรอบ ๆ …ไม่มีขนมให้กินเลยตามคาด

 

“เบียร์ ขอขวดหรือกระป๋องใหญ่ ๆ กับขนมด้วย” แขกมาเยือนยกมือห้ามเจ้าของบ้านที่กำลังยกน้ำเปล่ามา

 

“ขนมไม่มีหรอกนะ!” โลกิเผลอแว้ด แล้วรีบส่ายหัว “…ถ้าผลไม้ล่ะก็มี จะยกมาให้ รีบกินแล้วรีบกลับไปซะ”

 

“ถ้าอิ่มแล้วอ่ะนะ” พี่ชายตัวโตลอยหน้าลอยตา สำรวจห้องต่อ

 

…ดูจากสิ่งของในนี้ ไม่น่าจะมีใครอื่นอีก คือไม่มีชิ้นไหนผิดแผกไปจากรสนิยมของน้องชาย…เขาค่อนข้างจะพอใจในจุดนี้ แต่ต้องไม่ลืม ว่ายังไม่ได้เห็นในห้องนอน…

 

“เอ้า” เบียร์กระป๋องใหญ่และองุ่นพวงหนึ่งวางลงบนโต๊ะหน้าโซฟา น้ำเปล่าอีกแก้วเป็นของตนเอง โลกิทิ้งตัวลงนั่ง แล้วควักสมาร์ทโฟนออกมาดู  “มีอะไรก็ว่ามา”

 

“แม่ต้องดุนายแน่ ๆ ถ้าเห็นว่ารับแขกด้วยการนั่งกดมือถือเล่นแบบนี้”  ธอร์คว้าองุ่นขึ้นมาทั้งพวง เด็ดทีละสามลูกใส่ปาก “นายติดต่อกับแม่ แต่ไม่เคยคิดถึงพวกฉันเลย”

 

“แม่คือคนเดียวที่ฉันเว้นให้” …เพราะแม่รักฉัน แม้ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ โดยไม่มีเงื่อนไข โลกิซ่อนประโยคที่เหลือไว้ในใจ

 

“อา…ต้องพูดซ้ำกันสักกี่หนนายถึงจะเปลี่ยนใจ”  ธอร์เคี้ยวองุ่นอย่างฝืดคอ ยกเบียร์ขึ้นซดอึกใหญ่ “พ่อรักนายนะโลกิ กลับบ้าน—-”

 

“แล้วฉันต้องพูดซ้ำอีกสักกี่หน” โลกิขัดกลางประโยคของพี่ชายพร้อมล้อเลียน “ว่าถ้ารักกันจริง ก็ไม่ควรโกหกกันแต่แรก”

 

ธอร์ถอนหายใจ…ขบเมล็ดองุ่นจนได้รสฝาดในปาก เรื่องในครอบครัวของเขานั้นซับซ้อนไปด้วยปม…ไม่แปลกหากโลกิจะไม่ให้อภัย

 

“กลับไปซะเถอะธอร์” น้องชายเอ่ยไล่เมื่อได้ยินเสียงกระป๋องเบียร์เบาโหวง “ฉันอยู่คนเดียว สบายดี”

 

คำกล่าวนั้น คือประเด็นที่คาใจคนมาหา  “แน่ใจ…”

 

“…แน่นอน” โลกิเลิกคิ้วแบบสงสัย

 

“นายซื้อของเข้าบ้าน…ซื้ออะไรมาบ้าง ฉันเห็นนะว่าเป็นของสด”  ธอร์หันมาสบตา “นายไม่เคยทำอาหารกินเอง”

 

“แล้วฉันจะหัดทำบ้างไม่ได้หรือไง” น้องชายเถียงทันควัน

 

“หรือซื้อมาให้คนอื่นทำให้กันแน่” พี่ชายไล่เบี้ย

 

“กลับไปได้แล้ว” โลกิตัดบท ลุกขึ้นจากโซฟา

 

“เดี๋ยวสิ” ธอร์ลุกตาม

 

เสียงดัง ‘แกร๊บ’ ลั่นขึ้นมาจากร่องระหว่างเบาะโซฟา

 

ธอร์หันไปมอง แล้วล้วงเข้าไปในซอกนั้น…ถุงยางอนามัยแผงหนึ่งติดนิ้วขึ้นมา

 

“โฮ่…เตรียมพร้อมจังนะน้องชาย”  เขาหัวเราะ ด้วยน้ำเสียงเสแสร้ง

 

โลกิมีสีหน้างุนงงให้เห็นครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้ารำคาญใจ  “เรื่องของฉันน่า!”

 

“เรื่องของนาย…” ธอร์รู้สึกว่าในหัวตัวเองเริ่มร้อนขึ้นมา เพราะสิ่งที่เห็นนั้น ขัดกับสิ่งที่เคยจำได้  “แต่ถุงยางพวกนี้…ไม่ใช่ไซส์ของนาย”

 

โลกิยกมือขึ้นตบหน้าผากของตัวเอง

 

ก่อนจะเดินมาผลักอกพี่ชายให้ล้มลงไปนั่งบนโซฟาอีกหน

 

ความคุ้นเคยในอดีตทำให้ธอร์รู้ทันทีว่าโลกิต้องการทำอะไร เขาดันไหล่อีกฝ่ายออกเมื่อน้องชายลดตัวลงนั่งกับพื้น ยื่นหน้ามาตรงหว่างขาของเขา สองมือพยายามแกะเข็มขัดและซิปกางเกงออก

 

“หยุด! โลกิ! บอกให้หยุดไง!”  

 

“พี่ไม่ได้มาหาฉันเพราะเรื่องแบบนี้เหรอ” เขาพูดพลางปอกเปลือกท่อนล่างพี่ชาย นิ้วเรียวยาวขยุ้มท่อนลำใหญ่ ๆ ใต้ผ้ากางเกงใน “เดี๋ยวจะรีบอม แล้วไปให้พ้น ๆ หน้า”

 

“บ้าเอ้ย!” ธอร์สะดุ้งแล้วเริ่มหายใจถี่…นอกจากไอ้หัวร้อน เจ้าบื้อ เขายังถูกด่าว่าสัตว์ป่าบ้ากาม แค่แตะนิดเครื่องก็สตาร์ทติดง่าย

 

“เข้าใจนะว่าคิดถึง ‘เรื่องเคย ๆ กัน’ เลยมาหา…แต่พี่จะแคร์ทำไมว่าใครเคยมาที่นี่…ยังไงฉันก็ให้ทุกคนอย่างไม่ลำเอียงแน่นอน”  ประโยคนั้นมาพร้อมลมหายใจที่เป่ารดหว่างขา…เขาฝืนแรงแขนของธอร์แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ทีละนิด…ทีละนิด…

 

ธอร์ครางเสียงต่ำในลำคอ เมื่อปลายลิ้นร้อนเร่าตวัดเลียส่วนปลาย

 

โลกิแสยะยิ้มร้ายกาจ เมื่อแขนกำยำที่ผลักไล่เขาออก เปลี่ยนเป็นดึงรั้งเข้าไปหา เขาอ้าปากเพื่อดูดกลืนอีกฝ่าย…ลึกล้ำจนแทบปิดกั้นลมหายใจ

 

ในห้องรับแขกมีเสียงหยาบโลนดังเป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่หลายนาที ก่อนที่เสียงสำลักจะดังขึ้น โลกิเบือนหน้าแล้วคลายของเหลวขุ่นข้นออกมา มันเยอะเกินจะกลืนลงไปหมด…เขาหายใจหอบ…ซ้ำยังต้องนวดกึ่งกลางร่างกายของตัวเองไปด้วยเพราะดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาบ้าง

 

“กลับไปได้แล้ว….”  แต่เมื่อปรายสายตามา…กลับพบว่าธอร์ยังคงตั้งตระหง่าน…  “ยังอึดเหมือนเดิมเลยนะพี่ชาย”

 

“ขึ้นมาควบบนตัวฉันซะ” ธอร์ตบตักตัวเอง “หรือจะให้ลงไปขี่นายบนพื้น”

 

โลกิกลอกตา ขืนให้ลงมา เขาตายแน่นอน

 

เจ้าของบ้านลุกขึ้น ถอดกางเกงตัวนอก ตามด้วยค่อย ๆ รูดกางเกงในออกช้า ๆ ปล่อยให้คนมองกลืนน้ำลายกับส่วนหน้าที่ชูชัน เขาหันหลัง แหวกเนินเนื้อออก  “อยากเข้าก็อำนวยความสะดวกหน่อย”

 

ขาดคำ นิ้วใหญ่ชุ่มน้ำลายก็สอดควานเข้ามาเปิดทาง…มืออีกข้างของธอร์อ้อมมาด้านหน้า รูดชักด้วยจังหวะเร่งเร้าจนหัวใจแทบวาย…

 

หลายนาทีต่อมา จนอารมณ์ครุกรุ่นได้เต็มที่ คนถูกเล้าโลมดันมือธอร์ออกเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว…พี่ชายเอนหลังลงกับโซฟา รอรับการบริการ

 

โลกิถอยหลังมายืนคร่อมตักใหญ่ วางมือลงบนต้นขาแกร่ง แล้วค่อย ๆ ย่อตัวลงนั่งสวม…เขากัดฟันอย่างอดทน พยายามผ่อนคลายตัวเองให้กลืนความใหญ่โตเข้าไป…ธอร์เองก็อดทนเช่นกัน…อดทนไม่ให้กระชากเอวได้รูปนั้นเข้าหาตัว

 

แต่หลังจากถูกโอบรัดและขยับขึ้นลงอย่างเนิบนาบครั้งแล้วครั้งเล่า ธอร์ก็หมดสิ้นความอดทน

 

เอวใหญ่กระดกขึ้นสวนจนเกิดเสียงดังพั่บใหญ่ โลกิร้องลั่นเพราะไม่ได้เตรียมใจ เมื่อครู่เขายังคุมเกมให้ดำเนินไปอย่างช้า ๆ แต่พี่ชายกลับแหกกฎเสียแล้ว “ธอร์! เดี๋ยว!”

 

ทว่าพี่ชายไม่รับฟัง ยังคงเด้งเอวเข้าใส่อย่างกระหาย เสียงสปริงโซฟาลั่นรัวบาดแก้วหู โลกิยกมือปิดปากไม่ให้เผลอกรีดร้อง เขาโกรธความเอาแต่ใจของพี่ชาย จึงถอนตัวเองลุกขึ้นจากตัก

 

แต่เพราะตัณหาที่ห่างหาย ทำให้ธอร์เหลือสติน้อยเต็มที เมื่อแก่นกายหลุดจากช่องทางร้อน เขาลุกตาม คว้าบ่าขาวจัดเอาไว้ เหวี่ยงร่างน้องชายลงไปคุกเข่ากับพื้นแล้วขึ้นคร่อม รีบร้อนสอดใส่

 

โลกิปิดปากตัวเองแน่น ก่อนจะต้องปล่อยมือเพราะแรงกระแทกจากด้านหลังทำให้ต้องยันแขนกับพื้นแทน เอวอ่อนร่อนไปมา บั้นท้ายราวกับถูกฟาดรัว แต่เสียวซ่านในร่างจนแทบทนไม่ไหว

 

ธอร์บดขยี้ตัวตนเข้าไปในร่างอีกฝ่าย ทั้งเสียงกระทำและเสียงคำรามดังขึ้นเรื่อย ๆ …เหมือนได้เอาคืนที่ถูกทอดทิ้ง เขาสาแก่ใจเหลือเกิน กล้ามเนื้อทั้งร่างหยัดเกร็งเมื่อปลดปล่อยอีกครั้ง ฝังทุกอย่างเข้าสู่ร่างที่พ่ายแพ้ให้กับเขา

 

โลกิสั่นเทิ้ม…เสียงสุดท้ายยามถึงฝั่งฝันหลุดออกมา…แล้วต้องครางต่ำเมื่อธอร์ทาบทับ กัดดูดซอกคอของเขาราวกับจะกลืนกิน

 

เสียงหอบหายใจดังก้องห้องรับแขก…ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าทุกอย่างจะสงบ

 

เมื่อความใคร่สลาย สติก็กลับ…ธอร์รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่รุนแรงขนาดนี้ เขาจุมพิตข้างขมับน้องเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ขยับตัว จะลุกขึ้น

 

/เพล้ง!!!/

 

เป็นท่อนขาของธอร์ที่ดันไปเตะโดนโต๊ะรับแขก แก้วน้ำตกแตกดังลั่น โลกิสะดุ้งเฮือก สั่นสะเทือนถึงบางส่วนของทั้งสองที่ยังสอดประสานกันอยู่

 

ธอร์ซี้ดปาก แล้วอยากเอ่ยขอโทษ “ขอ—-

 

“อุแว้!!!!!!!!!!!!!!!”

 

เสียงเด็กอ่อนดังลั่นมาจากหลังประตูหนึ่ง คราวนี้โลกิสะดุ้งจนบีบอีกฝ่ายแทบขาด ธอร์ร้องอ้าก น้ำตาแทบเล็ด ยังไม่ได้ทันได้ตั้งตัว เขาก็ถูกสลัดหลุด ได้แต่นอนโอดโอยกับพื้น ขาเรียวขาวกระทืบซ้ำอีกสามสี่หน ก่อนโลกิจะรีบร้อนเดินไปทางประตูนั้น

 

เมื่อความเจ็บคลาย พี่ชายจึงลุกขึ้นนั่งได้…เขาประคบประหงมลูกชายที่ได้ขึ้นสวรรค์และตกนรกในเวลาไล่เลี่ยกัน สายตามองหาอีกฝ่าย

 

ประตูที่เคยปิดตอนนี้เปิดกว้าง…โลกิที่ยังเปลือยท่อนล่างยืนอยู่ในนั้น…สองแขนโอบอุ้มทารกน้อย ปลอบให้หายเสียขวัญ

 

ธอร์คิดว่าตอนนี้เขาเบิกตากว้างจนแทบถลน  “เด็ก….เด็กมาจากไหน”

 

โลกิตวัดสายตาเย็นชามาให้…ปากคว่ำง้ำงอบ่งบอกว่าโกรธจัดขณะตอบ

 

“เนียร์…ลูกชายของฉันเอง”

 

TBC

คุยกันท้ายตอน : อา…ทำลงไปจนได้ เรทตั้งแต่ตอนแรก #ไม่รู้สึกผิดหรอกนะ #หึฟ์ 

ลูกของโลกินั้น เป็นลูกแท้ ๆ  รึเปล่าหว่า ชื่อของเนียร์ เอามาจาก Sleipnir ม้าแปดขาในตำนาน ลูกของ Svaðilfari กับ โลกิเองนั่นแหล่ะค่ะ เอิ๊กกกก แต่ในเรื่องจะมี Svaðilfari มาเป็นมารหัวใจของพี่ชายหรือไม่…ยังไม่เฉลยนะคะ แหะ ,,- -,,

Comments on: "[Thorki Modern AU] Single Daddy – 1" (4)

  1. โอ้ยตกใจมาก ไม่คิดว่าตอนแรกจะเรท5555555

    กิอุ้มลูกเป็นอะไรที่เกินจินตนาการเราไปหน่อย…ไม่เคยจิ้นว่านางจะอยู่กับเด็กเล็กขนาดนี้ได้(ฮา)
    ว่าแต่ลูกใครน้อออ พี่ชรัยหึงเข้าสิ หึงแรงๆ เอร้ยยยยย >*<

    • อิอิอิอิอิ (///___///
      เก๊าก็ไม่คิดว่ากิจะเลี้ยงเด็กได้ค่ะ ฮาาา ในตำนานนี่พอลูกม้าเกิดก็ยกให้โอดินเลย แต่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะจะท้าทายตรงนี้ล่ะ ฮาาา

      พี่ชรัยยยมาช่วยเลี้ยงลูกกกก /โดนกิไล่กลับ

  2. 123321 said:

    ก็คือมันสนุกกกกกก มากกกกกกฟฟฟฟฟฟฟหปป แล้วมีแค่ตอนที่1 ฮือออออ ความนกนี้

  3. เธอจ๋าาาาา อัพที ฮือ อยากกอ่านต่ออ่า แคค่ตอนแรกก็ชอบแล้ว มาต่อน้าาาาาา

Leave a reply to deewcrov Cancel reply