macho_luglio 's cargo, Mostly fanfictions.

Archive for 31/05/2017

[Novel] Be[lie]ve. – 17&18

17-05-31-22-03-47-272_deco

 ตอนเก่าๆจ้า

 

 

17.

 

 

อากาศฤดูร้อนเอาแน่เอานอนไม่ได้ พอๆ กับสถานการณ์ภายในเมืองเรเวนที่เริ่มระอุ

 

อาการของชาร์ลส์ไม่ดีขึ้นเลยนับจากเข้าโรงพยาบาล ทำได้เพียงประคองไม่ให้ทรุดลงเท่านั้น เฮนเรียตต้าจึงงดทุกอย่างที่ไม่สำคัญ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการเฝ้าสามี ส่งผลให้วาสโก้ไม่มีงานใดไปด้วย

 

เขาถือว่าช่วงนี้เป็นการพักร้อน จึงนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา อ่านหนังสือที่ยังค้างคา…ไว้ช่วงเย็นจะชวนอีกคนออกไปช่วยกันรดน้ำต้นอ่อน…เขาเพิ่งทดลองปลูกไม้ผลเป็นครั้งแรกในที่ดินส่วนตัวหน้าบ้าน

 

ทว่าแผนนั้นดูจะล่มเสียแล้ว เมื่อเนเว่ถือกุญแจมอเตอร์ไซด์ออกมา

 

“ผมขอยืมรถหน่อยนะครับ” บอกพลางส่งยิ้มออดอ้อน

 

“จะไปไหน” วาสโก้ลุกขึ้นมานั่ง

 

“เข้าเมืองครับ” พูดจบก็ยื่นสมาร์ทโฟนให้อ่านหน้าจอ เป็นข้อความจากอังเดร “พ่ออยากให้ไปช่วยหยิบเอกสารในบ้านเก่าให้หน่อย จะให้อังเดรไปกลับก็กลัวจะเหนื่อย อายุเขาไม่น้อยแล้ว”

 

คนฟังเดาะลิ้น มองออกไปนอกหน้าต่าง…ฟ้าเริ่มครึ้มแล้ว จำได้ว่าเจ้าตัวเล็กนี่ไม่ชอบฝน คราวก่อนแค่ตั้งเค้าก็ยกเลิกแผนการจนหมด “ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

“กับเรื่องของพ่อ ต่อให้ต้องว่ายน้ำข้ามอ่าว ผมก็ทำได้ครับ” เจ้าตัวแสร้งทำหน้าขึงขัง

 

“ให้ฉันขับรถไปด้วยไหม” เสนอตัวอย่างห่วงใย สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เขากังวล

 

“ไม่เอาครับ” เนเว่ปฏิเสธอย่างว่องไว ยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก “คุณกลัวพ่อผมใช่ไหมล่ะ ไม่ต้องฝืนใจไปเจอท่านอีกหรอก”

 

ไอ้…เด็ก…บ้า ทำไมรู้ดี…

 

แขนใหญ่เอื้อมจะไปคว้าเอวเล็กมาฟัดให้หายเคือง แต่เจ้าตัวใช้ขาซ้ายข้างเดียวกระโดดหลบเป็นกระต่าย

 

“ผมไปไม่นานหรอก ไปด้วยมอเตอร์ไซด์สะดวกกว่า ไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่จอดในโรงพยาบาลจะไม่พอด้วย”

 

เหตุผลนี้ ทำให้วาสโก้ยอมรับในที่สุด เขาพยักหน้าให้ “รีบไปรีบกลับแล้วกัน”

 

ทันทีที่ได้รับคำอนุญาต เนเว่ยิ้มกว้างแล้วโบกมือ ดูเหมือนจะมั่นใจมากว่ายังไงต้องได้ไป เจ้าตัวจึงใส่ชุดเสื้อกันลมสำหรับขี่มอเตอร์ไซด์เอาไว้พร้อม แล้วรีบเดินดังกึกกักมุ่งไปทางประตู

 

“เดี๋ยวก่อน” เจ้าของบ้านเรียกเสียงเข้ม ก่อนจะชี้ตัวเอง

 

เนเว่ขำพรืดกับท่าทางนั้น ใช่แล้ว…เขาลืมจูบลา

 

ร่างเล็กเดินกลับมาหา คล้องแขนรอบลำคอใหญ่ นั่งคร่อมลงบนตักกว้าง…ยิ้มหวานเมื่อคนตัวสูงก้มลงมาหา เขาเงยหน้ารับจูบหวานละมุนปนวาบหวามนั้น

 

“เดี๋ยวไม่ได้ไปกันพอดี” บอกพลางลุกขึ้นยืน ปัดมือที่กำลังยุ่มย่ามกับบั้นท้าย แล้วรีบออกจากบ้านเพราะกลัวอีกฝ่ายเปลี่ยนใจ

 

วาสโก้เอนตัวลงนอนอีกครั้ง ฟังเสียงมอเตอร์ไซด์ห่างออกไป

 

ไม่นานนัก เขาค้นพบว่าอ่านหนังสือเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัว

 

ความกังวลสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากโซฟา เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วคว้ากุญแจรถยนต์ ขับตามออกไป…ตั้งใจว่าจะคอยดูอีกฝ่ายห่างๆ

 

แม้จะค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีใครรู้เรื่องของเขากับเนเว่…แต่กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ จริงไหม

 

———

 

เมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซด์จอดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล วาสโก้จึงอุ่นใจพอควร เพราะหนุ่มน้อยของเขาทำตามที่บอก

 

คนซุ่มดูเอนหลังกับเบาะรถ คว้าเครื่องเกมที่พกมาด้วยขึ้นมาเปิด กดเล่นแก้เบื่อระหว่างรอคอย…หากอีกฝ่ายออกมาแล้วตรงกลับบ้าน เขาก็แค่ขับไปแวะมินิมาร์ทสักแห่ง ซื้อนมหรือเบียร์เพิ่มเติมแล้วกลับไป(เพราะเนเว่ไม่ยอมกินเหล้าที่เขาหมักเอง) บอกว่าออกไปตุนเสบียงเมื่อถึงบ้าน เท่านี้ก็แนบเนียนไม่มีอะไรให้สงสัย

 

ผ่านไปครู่ใหญ่ เนเว่จึงออกมา…ทว่าแทนที่จะขึ้นมอเตอร์ไซด์ เจ้าตัวกลับเดินเลยไปที่อื่น

 

ระยะจากในรถไม่สามารถเห็นได้เนื่องจากอีกฝ่ายเลี้ยวตรงหัวมุมถนน วาสโก้โดดลงจากรถ ล็อกประตูเรียบร้อยแล้วจึงรีบสาวเท้าตามไป…เขาเห็นเนเว่โทรศัพท์ตลอดทาง ก่อนจะชะงัก แล้วเลี้ยวเข้าไปตรงที่ว่างระหว่างตึกสูง

 

เลือดในกายวาสโก้สูบฉีดแรงขึ้น เมื่อพบว่ามีคนๆ หนึ่งดักรอเนเว่อยู่…เป็นชายรูปร่างผอมสูง ไว้ผมยาวรกรุงรัง ท่าทางคล้ายคนติดยา…ฝ่ายนั้นลดโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่ลงเมื่อรู้ว่าอีกคนมาถึง

 

แต่ฝ่ายเปิดการสนทนาก่อนคือเนเว่ “หมายความว่ายังไง ที่จะเลิกเป็นสายแล้ว”

 

“ก็อย่างที่บอกแหล่ะน้องชาย…” หนุ่มผมยาวเกาคอ ทำท่าจะเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจซุกมือเข้าไปในเสื้อแจ็กเก็ตตัวเปื่อย “ตอนนี้พวกวอลเธอร์เริ่มออกล่าหัวสายข่าว ขืนฉันทำต่อเดี๋ยวชีวิตจะอับเฉาน่ะ”

 

“อ้อ…ลืมไปว่านายขายข่าวของวอลเธอร์ แต่ก็ซื้อยาของวอลเธอร์ด้วย” รอยยิ้มบางจุดขึ้นที่มุมปาก “แต่ว่า…ฉันจ่ายมัดจำไปครึ่งหนึ่งแล้ว”

 

“ถือเสียว่าฟาดเคราะห์ไปแล้วกัน” ขี้ยาโบกมือที่ไม่ได้ซุกเสื้อไปมา “อย่าใจจืดใจดำนักเลย นายเองก็น่าจะมีเงินพอควร ไม่มีฉัน นายก็คงหาคนอื่นทำงานแทนได้”

 

“แน่นอน…” ตอบพลางทอดถอนใจ “เพียงแค่คิดว่าแทนที่จะจ้างแหล่งข่าวเดียว สู้หาแหล่งอื่นสำรองไว้ด้วยจะรอบคอบกว่า…ที่ไหนได้…จากสายข่าวดันได้เศษขยะมาตัวนึงแทน”

 

จบคำนั้น ‘เศษขยะ’ ควักปืนติดที่เก็บเสียงออกมาจากอกเสื้อ กระชากรางสไลด์ จ่อลำกล้องมายังใบหน้าขาวจัด

 

วาสโก้ใจหายวาบ อยากกระโจนออกไปขวาง แต่ถ้าทำแบบนั้นคงไม่ทันจังหวะลั่นไก…เขาได้แต่ภาวนา ขออย่าให้เนเว่พูดอะไรยั่วยุอีกฝ่ายไปมากกว่านี้…อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะหาทางช่วยได้

 

“ตอนแรกฉันว่าจะยึดแค่มัดจำ ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว…” บอกพลางขยับปลายเท้ายุกยิกไปมา กระบอกปืนแกว่งซ้ายขวา บ่งบอกว่าไม่ชำนาญนัก “แกต้องจ่ายที่เหลือมาให้หมดด้วย!”

 

เสียงตะคอกนั้น ดังพอที่จะทำให้คนได้ยินสะดุ้ง

 

หากเนเว่สงบนิ่ง…

 

“แย่จัง…กะทันหันแบบนี้ ใครจะเบิกเงินเตรียมมา” เสียงนุ่มนั้นติดจะเย้ยหยัน  “อย่างน้อย นายควรจะโทรหลอกฉันว่าได้ข่าว ‘ปังๆ’ มาแล้ว และให้ฉันเอาเงินเต็มจำนวนมาแลก”

 

ประกอบคำว่า ‘ปังๆ’ นั้น นิ้วเรียวข้างขวาทำท่าปืนแล้วยื่นไปแตะที่เก็บเสียงสีถลอก

 

“มึง…” ขี้ยาแยกเขี้ยว รู้สึกไม่สบอารมณ์ที่เหยื่อดูจะไม่สะทกสะท้านกับการข่มขู่ “อย่ามาล้อเล่นนะเว้ย! กูจะเป่าหัวมึงตอนไหนก็ได้!”

 

เนเว่ยิ้มตาหยี

 

“ทำไม่ได้หรอก”

 

ขาดคำ…

 

เท้าปลอมก้าวไปข้างหน้าส่งเสียงดังกึกใหญ่ ย่นระยะระหว่างร่างเล็กกับขี้ยาให้สั้นลง มือขวาที่ทำท่าล้อเลียนเมื่อครู่คว้าจับกระบอกปืนเอาไว้ เจ้าขี้ยาตกใจ นิ้วเหนี่ยวไก ทว่าปืนกลับไม่ระเบิดกระสุนออกมา!

 

ในชั่วพริบตานั้น เนเว่ง้างหมัดซ้าย ซัดเข้าไปสุดแรงที่ชายโครงขวา เจ้าตัวสูงทรุดฮวบลงมา หมัดเล็กชกอัดเข้ากกหูสุดแรงตามติด ขี้ยาทรุดลงไปอีกจนก้นแนบพื้น ปล่อยให้ปืนถูกกระชากออกไปจากมือ

 

เนเว่จิกหัวศัตรูด้วยมือซ้ายให้มั่นคง แล้วตีเข่าขวาใส่ใบหน้านั้นซ้ำๆ จนเลือดหยดลงพื้น…ซัดไปห้าที เช็คดูว่ายังไม่หมดสติจึงถีบอกให้ล้มตึงลงไปนอน

 

“ถ้าจะขู่ใคร ช่วยมืออาชีพกว่านี้หน่อยนะ” บอกพลางยกปืนในมือขึ้นมา “นายปลดเซฟแล้วก็จริง แต่ตอนชักรางสไลด์ ไม่สังเกตเลยเหรอว่ามัน ‘Double feed’”

 

Double feed เกิดจากการที่ปืนคัดปลอกออกได้ไม่สมบูรณ์ เกิดได้ทั้งจากแรงดึงรางสไลด์น้อยไปหรือความผิดปกติของแม็กกาซีน ทำให้ลูกปืนถูกป้อนเข้ารังเพลิงไปติดคาอยู่สองนัด ไกค้าง ไม่สามารถยิงออกไปได้

 

เนเว่มองปืน เป็น Glock รุ่นบ้านๆ เขาล็อกรางสไลด์ ปลดแม็กกาซีนออกมาหนีบไว้ระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนางขวา ใช้มือซ้ายกระชากรางสไลด์ถี่ๆ สามครั้ง ใส่แม็กกาซีนคืน กระชากรางสไลด์ซ้ำ จ่อไปยังขี้ยาแล้วเหนี่ยวไก

 

เสียงปืนยิงผ่านที่เก็บเสียงนั้น แม้ไม่ระเบิดลั่น หากข่มขวัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ…ขี้ยาตาเหลือกโพลงแล้วช็อกหมดสติไป ทั้งที่กระสุนไม่ได้ฝังลงร่าง แค่เฉียดบาดใบหู

 

“ไม่รู้ว่าปืนมีปัญหารึเปล่า แต่ที่เก็บเสียงนี่ถึงจะเก่าแต่ของดีทีเดียว ฉันขอไปนะ…อ้าว…ไม่ได้ยินแล้วเหรอ…งั้นถือว่าอนุญาตนะ”

 

พูดเองเออเองคนเดียวเสร็จแล้ว เนเว่ซุกปืนใส่อกเสื้อด้านซ้าย ก่อนจะชะงักเพราะมีกระบอกเดิมเสียบอยู่ในซองสะพายไหล่ จึงต้องเปลี่ยนไปใส่ซองขวาที่ยังว่างแทน

 

วาสโก้หลบวูบเข้าในร้านค้าใกล้ๆ เมื่อคนตัวเล็กเดินออกมาจากซอกตึก…เขาซุ่มดูจนอีกฝ่ายก้าวขึ้นมอเตอร์ไซด์ ขับไปยังทางออกนอกเมือง…ที่ไม่ใช่ทางกลับบ้าน

 

ความสับสนถาโถมเข้าสู่จิตใจ…เหมือนเห็นกระต่ายน้อยกำลังกินเนื้อไฮยีน่า

 

ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงสั่นรัว หน้าจอแสดงชื่อของโฆเซ่ เขาจ้องมองอยู่หลายอึดใจก่อนจะกดรับ

 

โฆเซ่นัดแนะอย่างรวดเร็วให้ไปหา เขามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาด้วย

 

 

TBC

 

18.

 

 

เพราะอยู่ในตัวเมืองพอดี วาสโก้จึงใช้เวลาไม่นานนักไปถึงคฤหาสน์ของวอลเธอร์ โฆเซ่ซึ่งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ประจำดูจะแปลกใจไม่น้อยที่เขามาถึงเร็วขนาดนี้

 

“เห็นบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญ เลยรีบขับมาไวกว่าปกติไงล่ะ” ชายหนุ่มโกหกคำโต จึงๆ เขานั่งนิ่งในรถ ทำหัวให้ว่างอยู่พักหนึ่งก่อนจะสตาร์ทเครื่อง แต่ก็ยังมาถึงเร็วกว่าปกติอยู่ดี

 

“มาไวก็ดีแล้ว” คนอายุมากกว่าพับหนังสือพิมพ์เก็บ และเข้าเรื่องงานทันที “ผมมีคนต้องสงสัย อยากจะให้คุณช่วยพิจารณา”

 

“คนต้องสงสัย…” วาสโก้ทวนคำ ขออย่าให้เป็นคนของเขา…แม้สิ่งที่เพิ่งเห็นมากับตานั้นจะน่าตกใจแค่ไหน

 

โฆเซ่หยิบอุปกรณ์ที่พกติดตัวขึ้นมา ด้วยวัยที่สูงขึ้นแต่ต้องปรับตัวให้ทันสมัย ทำให้เขาเลือกที่จะพกแท็บเล็ตเครื่องใหญ่แทนสมาร์ทโฟน เจ้าตัวเลือกเมนูต่างๆ อย่างเชื่องช้า โดยไม่รู้เลยว่าสร้างแรงกดดันให้กับคนมองขนาดไหน

 

“อ้อ เจอแล้ว” หน้าจอกว้างหันออกจากตัวเจ้าของ “คนนี้คุณเคยเห็นไหม”

 

วาสโก้มองรูปแอบถ่าย เป็นชายร่างอ้วนเตี้ย หน้าตาไม่โดดเด่นอะไร เจ้าตัวกำลังถือถุงกระดาษใส่อาหาร แต่คงเพราะไม่ทันระวัง มุมถุงด้านนึงจึงขาดออก เผยให้เห็นฟ่อนธนบัตรซ่อนอยู่

 

คนถูกถามส่ายหน้า “ผมไม่เคยเห็น”

 

“หมอนี่น่ะ เป็นคนฟอกเงินจากซองโตเน่ ถูกส่งมาวางฐานกำลังในเมืองนี้” โฆเซ่อธิบายขณะเลื่อนหน้าจอ หารูปต่อไป “คนนี้ล่ะ”

 

ดวงตาสีดำเพ่งมองรูปที่สอง คราวนี้ภาพมืดมัวเพราะแสงน้อยและซูมถ่ายเข้าไปในหน้าต่างอพาตเมนต์เก่าโทรม แต่เขากลับจำได้แม่นยำ “หมอนี่…เคยเป็นคนคุ้มกันขบวนฝิ่นของทางเราเมื่อสามปีก่อน มันหนีหายไป ตามตัวไม่ได้ ในที่สุดก็โผล่หางแล้วเหรอ”

 

“บิงโก! มันไปเข้าพวกกับซองโตเน่แล้ว” ชายสูงวัยกว่าแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ

 

“รู้ตัวอีกที พวกซองโตเน่ก็เหมือนจะล้อมและแทรกซึมพวกเราเอาไว้หมดแล้ว” วาสโก้เกาหัว รู้สึกยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ใช่…และมันอาจจะซึมลึกเข้ามาเกินคาด” โฆเซ่ถอนหายใจแรง เลื่อนหน้าจอต่อไป คราวนี้เขาไม่เรียก แต่รอให้อีกคนหันมามองเอง

 

เลือดในกายของวาสโก้คล้ายไหลย้อน หากยังสติดีพอจะเก็บอาการอยู่

 

รูปที่สามนี้ ถ่ายใกล้กับโรงพยาบาลกลางแห่งเรเวน บุคคลในนั้นสวมเสื้อฮู้ดสีดำคลุมศีรษะ มองเผินๆ เหมือนเป็นแฟชั่นข้างถนนของเด็กวัยรุ่นยุคนี้…หากดวงหน้าขาวจัดนั้นโดดเด่นออกมาจากเนื้อผ้ามืดทึม รวมไปถึงนัยน์ตาสีฟ้า…ที่ในรูปติดจะเย็นชายากจะหยั่งความคิด

 

วาสโก้เลื่อนสายตาจากรูปขึ้นมองโฆเซ่ พบว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมาเช่นกัน…

 

“ผมรู้ว่านี่เป็นเด็กของคุณ” ผู้ที่เป็นดั่งองครักษ์ของตระกูลเอ่ยเสียงเรียบ “จึงอยากมาถามคุณเอง…ว่ารู้จักเขาดีแค่ไหน

 

ใต้ฝ่ามือคนถูกถามเย็บวาบ เขาจิกเล็บลงกับเนื้อ ความเจ็บพอช่วยให้เลือดสูบฉีดขึ้นมา คงไม่ทำให้หน้าซีดนัก คำโกหกต้องถูกยกมาอ้าง อย่างแนบเนียน และมีเหตุผลพอ

 

“เด็กนี่เป็นพวกขายตัว ลีลาเด็ดมากจนผมติดใจ…” ริมฝีปากเหยียด รอยยิ้มหยาบคาย “เอามันกว่าผู้หญิงเสียอีก รูคับ ตอดเก่ง เอวร่อนเหมือนแมวติดสัดทุกคืน”

 

“โอเค เด็ดจริง แต่ไม่ต้องอวดขนาดนั้น” โฆเซ๋ยกมือห้าม “ขอสั้นๆ ว่าเด็กนี่มีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่า”

 

หากขาวสะอาดเกินไปคงไม่วายถูกสงสัย วาสโก้จึงใส่ไฟลงในเรื่องราว “…มันมีเพื่อนเป็นสายข่าวเร่ร่อน พวกไม่สังกัดฝ่ายไหน แต่เด็กนี่หากินด้วยก้น อะไรยุ่งยากต้องใช้สมองไม่ใช่ทางของมันหรอก…”

 

คนสูงวัยกว่าพยักหน้ารับรู้ข้อมูล “งั้นก็ไม่น่าจะอันตรายอะไร”

 

“ผมก็ว่าอย่างนั้น” แสดงความเห็นด้วยอย่างไม่ชี้นำนัก

 

“แต่…”

 

เสียงกดต่ำนั้น ทำเอาคนฟังกดดัน

 

“ด้วยฐานะของคุณในตอนนี้…ผมแนะนำว่าควรจะรีบเขี่ยเด็กนั่นออกไป…จะดีกับชีวิตมากกว่า”  โฆเซ่ใช้สายตานิ่งเรียบ หากหนักแน่นราวจะตรึงร่างคนถูกมอง

 

วาสโก้พยักหน้า

 

“ผมเข้าใจ…จะรีบหาทางจัดการ”

 

ทั้งที่ความจริงยังหาทางออกให้ตนเองไม่ได้

 

TBC

วาสโก้มีความงานเข้า….

ใกล้จะได้เฉลยปมในเรื่องทั้งหมดแล้วค่ะ ไม่นานๆ  (- -,,